สวัสดีครับทุกคน ผมเชื่อว่า ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้รับมอบหมายงาน ให้เป็นหัวหน้างาน ของโปรเจคต่าง ๆ หลาย ๆ คนอาจะมีปัญหากับการบริหารจัดการงานภายในทีม เช่น มอบหมายให้เพื่อนชื่อ A ที่ถนัด DEV แต่อยากรับหน้าที่ดูแลการลงทะเบียน เวลาส่วนอื่น ๆ มีปัญหาเราก็จะเสียคนหนึ่งคนที่น่าจะให้คำปรึกษาเราได้ไปเลยอย่างน่าเสียดาย ผมเองในฐานะคนที่เคยต้องเป็นหัวหน้าคุมทีมทำกิจกรรมจิตอาสาหลากหลายงาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการสร้างเครื่องวัดฝุ่นในโคราชเมื่อปีก่อน หรือ โครงการปัจจุบันที่กำลังดำเนินอยู่ คือ การพัฒนาระบบส่งอาหารด้วยไลน์บอท ผมก็พบกับปัญหาเช่นเดียวกันกับที่กล่าวมาโดยตลอด จนกระทั้งเมื่อวานผมได้เข้าร่วมกิจจกรรมของ ค่าย YCC2 ชื่อกิจกรรม YCC101 ซึ่งพี่ ๆ เค้านำเสนอ Tools ชื่อว่า MC/OD System ซึ่งเป็น Flat system based without head of team คือ ไม่มีหัวหน้าเลย ครับฟังไม่ผิดครับ “ไม่มีหัวหน้าเลย” บางคนฟังเเล้วอาจจะงง แล้วงานมันจะเดินได้อย่างไร

MC/OD System เนี่ยย่อมาจาก Master of Ceremony / One-day Director System ครับ ผมเองได้ยินครั้งเเรกก็รู้สึกว้าวมาก ๆ ครับ เท่านั่นยังไม่พอพี่ ๆ เค้ายังโชว์การใช้ระบบนี้ให้เห็นทันทีเเบบไม่มีการเตรี้ยมกันไว้ก่อนครับ เช่น การหา MC ในการจดบันทึก Take note ต่าง ๆ ส่วนตัวผมมองว่าเป็นระบบที่มีความ Flexible มากทำให้คนหนึ่งคนไม่จำเป็นต้องจมกับงานเดียวครับ

โครงสร้างของระบบ MC คือ การใช้ Trust Train Consult ครับ เช่น ผมได้รับหน้าในการออกแบบระบบแต่ผมไม่เคยทำ ผมก็สามารถไปถามคนที่เคยทำให้เค้าแนะนำผมได้ครับ

MC หน้าที่อะไรบ้าง

Feedback ผ่านการ voice ฺBrodcast ทุกอย่างให้ทุกคนเข้าใจ ควบคุมงาน List งานให้คนมารับงาน ที่สำคัญคือ MC จะไม่ทำงานเอง เพราะมีหน้าทีหลักในการ รับ voice จากทุกคนที่เเสดงความเห็ยขึ้นมาแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันในสังคม ไม่ใช่ว่าฝ่าย design ทำ design มาแล้วฝ่าย Developer จะไม่สิทธิ์ในการออกเสียงเลย

ผมขอขายความในส่วนของ VOICE อีกนิด โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงการรับ Feedback จากหลายคนก็จะนึกถึงการ VOTE ซึ่งการ VOTE เป็นระบบที่เหมือนจะ Fair แต่มันกลับไม่ Fair เลยเพราะเราจะเสียสิ่งที่เ็นเสียงส่วนน้อยไปเลย โดยเรามีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่เราจะมาวิจารณ์เหตุผลเหล่านั้นครับ ผมจึงขอเสนอแนวทางที่มีชื่อว่า “การรับรอง” การรับรอง คือ อะไร การรับรอง คือการที่เสียงจะต้องเห็นด้วย 100 % เต็มเท่านั้นครับ หากมีเสียงไม่เห็นจะต้องหยุดและรับฟังเหตุผลและหาเเนวแก้ไขจนกว่าจะรับรองผ่านหมดครับ

ด้วยระบบเหล่านี้ผมจึงอยากเสนอแนวทางใหม่ เพื่อเพิ่ม Prefromace ของ ทีมคือการให้ MC ทำการตั้ง OKRs ของงานนั้น ๆ ขึ้นมาเเละ Brodcast ออกไปเพื่อให้ทุกคนทราบและเปิดการรับรองแนวการวัดผลให้ดีขึ้นครับ

แต่ทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากวางแผนงานได้ไม่ดีพอครับ Flow ของงานจะต้องเป็นไปตามนี้ แอบคล้าย Design thinking อยู่นะ

1. Topic : เสนอว่าจะทำอะไร

2. Objective : หาจุดประสงค์

3. Modeling : เลือกว่าจะทำในรูปแบบใน

4. Tasking : การเตรียมการทำงาน

5. เสนอเพิ่มเติม

หากสามารถวางโครงสร้างของระบบงานให้ดีได้โอกาสที่งานสำเร็จและมีประสิทธิ์ภาพสูงย่อมมาก ขอบคุณครับ